ร้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน กิจกรรมเชื่อมจิต “น้องไนซ์”

น้องไนซ์ เชื่อมจิต ลวงโลก หรือ เรื่องจริง ?

ประกาศเชิญชวนเป็นเจ้าภาพก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม “สายธรรมแห่งองค์พุทธะ” ที่มีการเผยแพร่ในกลุ่มไลน์โอเพ่นแชท ที่มีผู้ศรัทธา ”น้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ“ เป็นสมาชิกกว่า 6,000 คน เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ "น้องไนซ์" จัดขึ้นเพื่อพบปะผู้ศรัทธา

น.ส.ฉวี (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี อดีตผู้ติดตาม “น้องไนซ์” เริ่มสงสัยถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นว่าเป็นธุรกิจหรือไม่ เพราะตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 15 ล้านบาท และพบว่าชื่อบัญชีที่รับเงิน เป็นชื่อของบุคคลแทนที่จะเป็นชื่อมูลนิธิ

ซึ่งเมื่อเธอนำข้อมูลไปเสิร์ช พบว่า เป็นชื่อของแพทย์เฉพาะทางด้านพัฒนาการเด็ก และการรับบริจาค ยังมีกฎว่าไม่ให้ส่งสลิปโอนเงิน ให้เก็บหลักฐานไว้ที่ตัวเอง และไม่มีการออกเอกสารหรือใบอนุโมทนาบัตรให้

น.ส.ฉวี (นามสมมุติ) เล่าว่า เริ่มติดตามน้องไนซ์มาตั้งแต่ปี 2564 เพราะเห็นคลิปที่แม่ของน้องโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งตนชอบเกี่ยวกับเรื่องนั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน ก็เลยอยากรู้ว่าเขาจะมาสอนนั่งสมาธิในรูปแบบใด เพราะปกติจะเป็นพระ หรือเกจิ ที่สอนอะไรพวกนี้ แต่นี้คือเด็กอายุ 8 ขวบ จึงเข้าร่วมกลุ่มโอเพ่นแชท เพราะอยากรู้ว่า มากรรมฐานสายไหน

แต่ปรากฎว่าเมื่อเข้าไปในกลุ่ม รู้สึกผิดสังเกตกับหลายอย่าง ทั้งกฎระเบียบในกลุ่มที่ต้องขออนุญาตก่อนพิมพ์ ต้องขึ้นต้นด้วย “กราบเรียน” ต้องเรียกชื่อยศตำแหน่งน้องไนซ์ แบบเต็มๆ หากใครเขียนผิด หรือตั้งคำถามกับกฎระเบียบต่างๆ จะถูกเตะออกจากกลุ่ม และจะเรียกคนที่ไม่ศรัทธาหรือมีคำถามกับ น้องไนซ์ ว่า “มาร”

โดยกิจกรรมช่วงแรกๆ มีการดูดวงสืบจิต โดยใช้คำว่า “ดูวาระจิต” คนในกลุ่มมักจะพิมพ์ถามว่า ฝันแบบนี้หมายความว่าอย่างไร และแม่ของน้องไนซ์ จะคอยมาตอบคำถาม ซึ่งในกลุ่ม คนที่จะเผยแพร่คำสอนของน้องไนซ์และตอบคำถามต่างๆ คือ ตัวแม่ของน้อง อ้างว่าเป็นสาส์นจากน้อง แต่ไม่เคยได้ยินเสียงน้องพูดเรื่องที่แม่อ้างด้วยตัวเองเลย เธอจึงสงสัยว่ากรณีของน้องไนซ์ ทำเป็นธุรกิจ และมีเรื่องผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง โดยมีผู้ใหญ่คอยชักจูงหรือไม่ เพราะน้องไนซ์ อายุเพียง 8 ขวบ คงไม่สามารถทำทั้งหมดด้วยตัวเองได้

ส่วนกิจกรรมเชื่อมจิตที่มีการชักชวนไปที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นั้น น.ส.ฉวี (นามสมมุติ) บอกว่า ตัวเองไม่เคยไปในกิจกรรมนอกสถานที่นี้ เนื่องจากเห็นราคาแพ็กเกจมองว่าราคาสูงเกินไป มีราคาขั้นต่ำราคา 1,900 บาท แต่ละคอร์สก็จะเพิ่มขึ้นตามความสะดวกสบายเป็น 2,000 บาท สูงถึง 4,000 บาทต่อคน โดยกิจกรรมนี้มีการโพสต์ในกลุ่มแล้วลบออกไป จากนั้นเป็นการบอกต่อ ส่งต่อกันจากคนที่อยู่ในกลุ่ม โดยการจ่ายเงินค่าเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งชื่อบัญชีที่รับเงิน เป็นบัญชีของแพทย์คนเดิม

ทีมข่าวพีพีทีวีได้พูดคุยกับหนึ่งในแอดมิน ที่ช่วยงานน้องไนซ์ คือ นายแพทย์ภพกฤต ภพธรอังกูร บอกว่า ตัวเองเข้ามาช่วยงานน้องไนซ์ ประมาณ 4 เดือนแล้ว หน้าที่หลักๆ คือการนำธรรมะที่น้องไนซ์สอน มาทำเป็นคลิปสั้น ๆ หาโค้วคำทำอินโฟกราฟฟิก และเป็นทีมงานช่วยจัดกิจกรรมงานเชื่อมจิตด้วย ในฐานะแอดมินที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยได้รับเงินค่าจ้าง เวลาไปช่วยงานออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่มองว่าสิ่งที่ได้คือการได้ซึมซับคำสอน ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าตัวเงิน

สำหรับกลุ่มทีมงานแอดมินของน้องไนซ์ นพ.ภพกฤต บอกว่า จะมีหลากหลายอาชีพ อย่างตัวเองที่เป็นหมอ ซึ่งหลังเข้ามาช่วยงาน มักจะได้รับกระแสตีกลับว่า คนที่เรียนวิทยาศาสตร์ทำไมถึงเชื่อเด็กอย่าง "น้องไนซ์" โดยหมอท่านนี้ให้เหตุผลว่า ส่วนตัวไม่ได้เชื่อ 100% ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ระหว่างการพิสูจน์ความเชื่อนี้อยู่

ภาพจาก : PPTV

 อดีตผู้ติดตาม “น้องไนซ์” เชื่อมีผลประโยชน์เบื้องหลังการสอนธรรม

OR เตรียมผุด 'พีทีที สเตชั่น' แบบไม่ขายน้ำมัน คาดเสร็จปลายปี 2567 คำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่

กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566

ฝุ่น PM 2.5 ลดลง! สมุทรสาครยังสีแดง เกินค่ามาตรฐานอีกกว่า 25 จังหวัด

By admin